Oscar Emmanuel Peterson เป็นนักเปียโนและนักแต่งเพลงแจ๊สชาวแคนาดา เขาถูกเรียกว่าจ้าวแห่งนักเปียโดย Duke Ellington มีผลงานเพลงมากกว่า 200 ชิ้น ได้รับรางวัลแกรมมี่ถึง 8 รายงาน และยังไม่รวมรางวัลเกียรติยศอีกเพียบจนบรรดาแฟนเพลงยกให้เขาเป็นนักเปียโนแจ๊สที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ผู้ที่ได้ออกเดินทางเล่นคอนเสิร์ตหลายพันแห่งทั่วโลกนับตั้งแต่ยังอยู่ในวงการมายาวนานกว่า 60 ปี
เขาถือกำเนิดในมอนทรีออล ควิเบก ในฐานะเพื่อผู้อพยพจากหมู่เกาะเวสต์อินดีส พ่อของเขาทำงานเป็นพนักงานยกกระเป๋าให้กับการรถไฟแคนาเดียนแปซิฟิก ทำให้สมัยเด็กต้องเติบโตมาในย่าน Little Burgundy ในมอนทรีออล ซึ่งก็คือย่านของคนดำที่เขาได้เติบโตและซึมซับมากับวัฒนธรรมแจ๊ส เมื่ออายุได้เพียง 5 ขวบ Peterson เริ่มที่จะฝึกทักษะในการเล่นดนตรีด้วยการเริ่มเล่นทรัมเป็ตกับเปียโน จนกระทุ่งต้องพบกับโชคร้ายต้องป่วยเป็นวัณโรคเมื่ออายุเพียงเจ็ดขวบทำให้เขาไม่สามารถเล่นทรัมเป็ตได้อีก
หลังจากที่เขาหันมาเล่นเปียโนอย่างจริงจังมากขึ้นจนได้ชนะการประกวดเมื่ออายุ 14 ปี ชื่อเสียงตัวเขาก็เริ่มกลายเป็นที่รู้จักผ่านสถานีวิทยุของเมืองมอนทรีออล แถมยังได้มีโอกาสไปเล่นดนตรีร่วมกับ Johnny Holmes Orchestra ตั้งแต่ปี 1945 จนถึง 1949 ได้บันทึกผลงานเพลงไปแล้วกว่า 32 ชิ้น ด้วยผลงานการเล่นที่ไม่เหมือนใครทำให้มีผู้คนชื่นชอบความมีพรสวรรค์ของเขาเป็นอย่างมาก จนกระทั่ง Granz ได้มาพบเข้าในปี 1949 จนทำให้ Peterson ได้กลายเป็นแขกรับเชิญพิเศษในคอนเสิร์ต Jazz at the Philharmonic
ชีวิตช่วงหลังของ Oscar Peterson
ต่อมาหลายสิบปี Peterson ได้เปิดโรงเรียนสอนดนตรี Advanced School of Contemporary Music ในเมืองโตรอนโต ในช่วงปี 1972 เขามักจะร่วมทีมกับ Joe Pass และ Niels Pedersen นอกจากนี้ยังได้ร่วมงานกับศิลปินชื่อดังหลายคนอย่าง Dizzy Gillepie, Roy Eldridge, Harry “Sweets” Edison, Clark terry และ John Faddis ในปี 1964 Paterson ก็ได้สร้างผลงานใหม่ที่กลายเป็นตำนานอีกชิ้นคือ Canadiana Suit ซึ่งได้จัดการแสดงขึ้นในปีเดียวกัน แม้ว่าจะผู้คนจะคิดว่าเขาเป็นนักเปียโนอะคูสติกที่เชี่ยวชาญอยู่เสมอ แต่ปีเตอร์สันก็ยังสร้างผลงานด้วยเปียโนไฟฟ้าด้วยเช่นกัน ช่างน่าเสียดายที่ต่อมาในปี 1993 เขาได้ถูกเล่นงานด้วยโรคหลอดเลือดสมองที่เล่นงานเข้าเป็นเวลากว่า 2 ปีทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้อย่างที่ใจหวัง ท้ายที่สุด Peterson ก็ค่อยๆ พยายามกลับเข้ามาในแสดงในวงการอีกครั้งถึงแม้ว่ามือจะไร้เรี่ยวแรงก็ตาม นั่นจึงทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักดนตรีที่ดีที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา